เครียด…แต่ฮาได้ เมื่อชูวิทย์หาเสียง
ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ทำตัวเองให้ดังเป็นข่าวได้ตลอด ด้วยลีลาการหาเสียงที่ดุดัน แต่ก็มีฮาๆ ขำๆ ปรับเปลี่ยนมุขใหม่ๆ ไม่เคยหยุดนิ่งกับแบบเดิมๆ จากที่เคยรูดปลาไหลโชว์ ในปีนี้เน้นการตั้งโต๊ะรับเรื่องร้องทุกข์สลับกับการโชว์ของจริงมีอุปรณ์ประกอบให้ดู ลากเอาตัวเงินตัวทองมาเข้าฉากก็ทำมาแล้ว มีการตั้งโต๊ะหน้าโรงรับจำนำโชว์กินข้าวแบบชาวบ้านที่มีรายได้ขั้นต่ำ แล้วบอกว่ากินอย่างนี้รายได้ยังไม่พอยังชีพเลย ทำให้ชูวิทย์มีข่าวออกสื่อได้อยู่เรื่อย ๆ
แม้บุคลิกของ“ชูวิทย์”จะเหมือนกับคนที่มีลูกบ้าทางการเมืองทำอะไรแปลกๆแต่อย่าลืมว่าเขาเป็นนักธุรกิจใหญ่ที่มีประสบการณ์ชีวิตโชกโชน แม้จะร่ำรวยจากธุรกิจสีเทาอย่าง “อาบอบนวด”แต่ถ้าใครเคยอ่านบทสัมภาษณ์ของเขาจะรู้เลยว่า “ชูวิทย์”คนนี้ไม่ธรรมดา เป็น “นักสู้ข้างถนน”ที่มากด้วยเขี้ยวคมและการเอาตัวรอด และเป็นนักการตลาดตัวยง
ในครั้งนี้ชูวิทย์เปลี่ยนแนวทางใหม่ ไม่เอาแล้ว “ผู้ว่าฯกทม.” แต่มาลงสมัครในสนามเลือกตั้งใหญ่แทน เขาตั้งพรรครักประเทศไทยขึ้นมาโดย “ชูวิทย์” เป็นหัวหน้าพรรค หลายคนอาจมองว่าเป็น “ลูกบ้า” เที่ยวล่าสุดของชูวิทย์ เพราะพรรคนี้ขายชูวิทย์คนเดียว เป็นการตั้งพรรคขึ้นมาเพื่อตัวเองอย่างแท้จริง เน้นหาคะแนนปาร์ตี้ลิสต์เพียงอย่างเดียว ขอแค่ 300,000 คะแนนก็เพียงพอแล้ว ซึ่งเขาเคยทำได้มากกว่า 3 แสนมาแล้วในศึกเลือกตั้งผู้ว่า กทม.
กลยุทธ์การหาเสียงของ “ชูวิทย์” จึงไม่เน้นหาเสียงแบบเคาะประตูตามบ้าน แต่เน้นการประชาสัมพันธ์ ผ่านสื่อเขาปูพรมคัทเอ้าท์ด้วยสำนวนแปลกๆ อย่างถี่ยิบทั่วกทม. เดินหาเสียงเป็นจุดๆแทบทุกวันโดยเน้นการตั้งโต๊ะรับคำร้องทุกข์ และเน้นหนักเป็นพิเศษในวันเสาร์-อาทิตย์ซึ่งเขารู้ดีว่า “ข่าวน้อย”
3 กรกฎาคม 2554 ก็จะทราบผลว่า ประเทศไทยจะมีฝ่ายค้านที่ชื่อ “ชูวิทย์กมลวิศิษฏ์” เข้าสูสภาเพื่อสร้างสีสันความเครียด…แต่มีฮาได้หรือไม่
Ref http://www.oknation.net/blog/Smartlearning/2011/06/03/entry-1
ภาพหาเสียงจาก
เรื่องเล่าเช้าฯชูวิทย์หาเสียงทำบุญโลงศพ
โฆษณาชูวิทย์จาก